ศึกษานิเทศก์ ชี้ การจัดการเรียนการสะเต็มศึกษาจะสำเร็จต้องใช้กิจกรรมเป็นตัวหนุน เน้นกิจกรรมเรียนรู้ที่เน้นปัญหา โครงงาน ส่งผลให้เด็กได้เรียนรู้ ทำงานเป็นกลุ่มเป็น
ดร.ยุพาพร หรเสริฐ ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.)ขอนแก่น เขต 3 เปิดเผยถึงผลงานวิจัยเรื่องการวิจัยแบบมีส่วนร่วมของครูผู้สอนระดับประถมศึกษา ในการจัดการเรียนการสอนสะเต็มศึกษา เพื่อพัฒนาจิตสำนึกนักเรียนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรื่องการลดภาวะโลกร้อน ว่า งานวิจัยนี้เกิดจากการปฏิบัติจริงจากการเข้าร่วมการอบรมดำเนินงานวิจัยควบคู่กับการจัดการเรียนรู้ (R2R) ด้านการจัดการขยะ น้ำเสีย ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างกระบวนการพัฒนาครูในการออกแบบการสอนสะเต็มศึกษาและพัฒนาจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนักเรียนระดับประถมศึกษา
ดร.ยุพาพร กล่าวว่า การวิจัยทำให้พบแนวทางในการพัฒนาครู ว่า ครูผู้สอนต้องร่วมกันศึกษาสาระสำคัญของหลักสูตรกลุ่มสะเต็มศึกษา แล้วเขียนแผนการสอนแบบบูรณาการ โดยต้องมีกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นปัญหาเป็นฐาน(Problem-based Learning) หรือ การเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน(Project-based Learning) โดยการทำกิจกรรมให้เน้นผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเกิดข้อมูลย้อนกลับ เพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผู้เรียน ส่วนการวัดประเมินผลก็ให้วัดการเรียนรู้ตามสภาพจริง
“สำหรับรูปแบบพัฒนาครูด้วยการอบรมการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตามกระบวนการเทคโนโลยี 7 ขั้น คือ 1.กำหนดปัญหาร่วมกัน 2.ศึกษาข้อมูล 3.วางแผนและออกแบบนวัตกรรม 4.ทดสอบนวัตกรรม 5.ปรับปรุง 6.ประเมินผล และ7.นำเสนอผลงาน นั้น พบว่า ครูมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถออกแบบการจัดกิจกรรมการสอน เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรื่องการลดภาวะโลกร้อนให้แก่นักเรียนได้ ขณะที่นักเรียนก็สามารถผลิตชิ้นงานจากการเรียนรู้ตามกระบวนการสะเต็มศึกษาโดยผ่านโครงงานได้เช่นกัน” ดร.ยุพาพร กล่าว
...เดลินิวส์