ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา(กอปศ.) เปิดเผยผลการประชุม กอปศ.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกลไกการปฏิรูปการศึกษามีความก้าวหน้าไปมาก โดย พ.ร.บ.เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ได้มีผลบังคับใช้แล้ว ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วน ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาเด็กปฐมวัย และร่าง พ.ร.บ.พื้นที่นวัตกรรมการศึกษา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ให้ความเห็นชอบหลักการในวาระหนึ่งไปแล้ว สำหรับแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ซึ่ง กอปศ.ได้เสนอแผนนี้ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 และจะเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ดังนั้น จะมีการปรับปรุงแผนพร้อมทั้งรับข้อแนะนำของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ มาปรับปรุงแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา จากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบ ก่อนเสนอ สนช.เพื่อทราบ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อออกมาเป็นแผนให้หน่วยงานปฏิบัติ
ประธาน กอปศ.กล่าวต่อไปว่า ที่ต้องมีการปรับปรุงใหม่ เช่น ปรับปรุงกฎหมายลำดับรองที่มีรายละเอียดมาก แต่ ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ร่างกฎหมายลำดับรองต่างๆไม่ตรงกับที่วางแผนปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาไว้ จึงต้องเปลี่ยนเนื้อหาในกฎหมายลำดับรอง มิฉะนั้นการกำหนดเป้าหมายอาจไม่สามารถปฏิบัติได้สำหรับผู้มารับผิดชอบต่อไป ปรับปรุงเรื่องการสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)และเอกชน ในการจัดการศึกษาให้ชัดเจนขึ้น ปรับปรุงรายละเอียดเรื่องครูอาชีวศึกษา มาตรฐานสมรรถนะวิชาชีพต่างๆ รวมถึงการปฏิรูปด้านอาชีวศึกษา เช่น บทบาทของรัฐในการส่งเสริมการอาชีวศึกษา โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ด้อยโอกาส รวมถึงการสนับสนุนสาขาที่ตรงต่อความต้องการของประเทศให้เป็นรูปธรรม เป็นต้น
ต่อข้อถามว่า หากร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่ไม่สามารถประกาศใช้เป็นกฎหมายได้ทันรัฐบาลนี้ จะถือว่าปฏิรูปการศึกษาไม่สำเร็จหรือไม่ ศ.นพ.จรัส กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษา เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการให้สำเร็จ เพราะรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ให้มีการปฏิรูปการศึกษา แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ เรื่องการดูแลเด็กเล็ก เรื่องครู การเรียนการสอนที่ไม่ทันโลก ซึ่ง กอปศ.ส่งร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2561 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ถือว่าล่าช้าไปมาก
...เดลินิวส์